เนื่องจากวันนี้ผมได้ลองหาข้อมูลเรื่องการศัลยกรรมในแต่ละประเทศเพิ่มเติม เลยได้พบกับข่าวเหล่านี้ในวันนี้ครับ ครั้งแรกที่ได้เห็นก็ทำให้ผมตกใจมากกับเทรนความนิยมของสาวๆเอเชียสมัยนี้จริงๆครับ เพราะแวบแรกที่ผมเห็นผมก็คิดในใจว่า ’เดียวนี้เขานิยมศัลยกรรมแบบเอาตัวอย่างการทำจากนอกโลก และเหนือจินตนาการกันแล้วใช่ไหม’ โดยสาวรายแรกที่ผมเห็นนั้นเธอเป็นเน๊ตไอดอลโดยมีชื่อในเน๊ตว่า ‘Tina/Dina Leopard’ครับ โดยเธอคนนี้คงชื่นชอบเอเลี่ยนเป็นพิเศษละมั้งครับ เพราะเธอศัลยกรรมออกมาแล้วเหมือนเอเลี่ยนมาก ส่วนรายต่อมาเธอชื่อ ‘ริกะ/รินะ นานาเสะ’ เป็นสาวน้อยอดีตหน้าสวยหวานครับ เพราะปัจจุบันที่เธอแอบไปอัพหน้ามานั้นปัจจุบันได้เปลี่ยนให้หน้าปัจจุบันเธอกลายเป็นสาวเอลฟ์แทนครับ ที่ผมร่ายยาวเกี่ยวกับสาวๆสองคนนี้ในวันนี้ก็ไม่ใช่อะไร แต่เหตุผลที่ผมต้องกล่าวถึงสองสาวนี้ก็เพราะสองสาวนี้ก็คือตัวอย่างของคนที่เสพย์ติดศัลยกรรมนั้นเองครับ ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำผู้ที่สนใจจะทำศัลยกรรมทุกท่านดีกว่าครับว่าควรจะทำศัลยกรรมแบบไหนถึงจะเรียกว่าทำแบบพอดี แล้วใครที่มีลักษณะเข้าข่ายเสพย์ติดศัลยกรรมกันดีกว่าครับ
แบบไหนถึงจะเรียกกว่าศัลยกรรมแต่พอดี?
เมื่อไหร่ที่คนใกล้ตัวที่สุดของพวกคุณรวมถึงหมอที่พวกคุณได้เข้าไปปรึกษาด้วยได้ทักห้ามอย่างพร้อมเพียงกัน ก็ควรหยุดเลยครับ เพราะถ้าพวกคุณยังขืนดันทุรังที่จะทำต่อโดยไม่สนใจเสียงรอบข้างที่พยายามเตือนพวกคุณแล้วละก็ จากที่เคยสวยหล่อถึงขีดสุด มันจะกลายเป็นกระบวนการย้อนกลับตรงข้ามทันทีเลยครับ
เสพย์ติดศัลยกรรมคืออะไร?
“การเสพติดศัลยกรรม” คืออาการของผู้ที่รู้สึกไม่พอใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองสักที และต้องการการศัลยกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขให้ได้อย่างใจอยู่ไม่รู้จบ โดยมีสิ่งเร้าที่เป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมดังกล่าว สาเหตุส่วนใหญ่ของผู้ที่เสพติดการศัลยกรรม โดยมากมาจากอาการ บีบีดี หรือ “บอดี้ ดิสมอร์ฟิก ดิสออร์เดอร์” (Body dysmorphic disorder, BBD) ที่มีความกังวลจนถึงขั้นหมกมุ่นเกี่ยวกับร่างกายของตัวเองมากเกินไป ทำให้ไม่พอใจในรูปร่างหน้าตาของตนเองและคิดว่าการศัลกรรมคือทางออกสุดท้าย อีกทั้งมีปัจจัย 3 อย่างด้วยกันเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้ป่วยเสพติดศัลยกรรม 1 คิดว่าการศัลยกรรมช่วยแก้ไขความบกพร่องของร่างกายได้ถาวร ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดเพราะการศัลยกรรมสามารถช่วยแก้ไขได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น (เพราะถ้าถึงเวลาที่วัสดุที่ใช้หมดอายุหรือสภาพร่างกายของผู้ทำมันทนรับต่อไปไม่ไหวก็ต้องกลับมาแก้ไขกันหใม่ครับ*) 2 เชื่อว่าการศัลยกรรมแก้ปัญหาของชีวิตได้ เพราะจะช่วยแก้ไขความบกพร่องและเป็นที่ยอมรับในสังคม 3 เสพติดความสวยจากไอดอลที่ตนชื่นชอบผ่านหน้าจอทีวี จนต้องทำศัลยกรรมซ้ำซ้อนเพื่อให้มีใบหน้าคล้ายกับไอดอลที่ตนชื่นชอบมากที่สุด
สรุปนะครับสำหรับใครที่ทำแค่เอาแบบสวยหล่อเป็นธรรมชาติแล้วทุกคนจะทำแล้วออกมาสวยหล่อทุกคนครับ แต่ถ้าใครที่มีความต้องการแบบอยากได้แบบเยอะเกินธรรมชาติมักจะไม่รอดแล้วต้องแก้กันอีกหลายรอบเลยครับ (เพื่อนๆร่วมวงการเดียวกับผมโดนลูกค้าประเภทนี้เยอะ) เอาเป็นว่าหลังจากที่ทุกคนอ่านจบแล้วมีปัญหาอะไรก็สามารถโพสคำถามได้ที่ท้ายบทความนะครับ เดียวผมว่างเมื่อไหร่ก็จะเข้ามาช่วยตอบครับ