โดย อาจารย์นายแพทย์ทนงศักดิ์ ปัญญาวิรุฬห์โรจน์
“การเสริมจมูก”นั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทยร้อยละ 80 นิยมเสริมจมูกและกำลังบูมมากในปัจจุบันใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับจมูกไม่ใช่เรื่องยากเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไปการทำไม่นาน รักษาตัวเพียงไม่กี่วันก็สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ จึงทำให้การเสริมจมูกนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ ใครๆก็ทำได้อีกทั้งการเสริมจมูกสมัยนี้ราคาไม่แพงเหมือนสมัยก่อน โดยวิธีการเสริมจมูกของเรานั้นมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ดังนี้
ในอันดับแรกก่อนที่เราจะทำการเสริมจมูกนั้นเราต้องรู้ถึงปัญหาของจมูกของท่านก่อนว่ามีปัญหาเป็นอย่างไร จมูกเบี้ยว ดั้งไม่มี ใหญ่ไป เล็กไป ปลายไม่สวย และที่สำคัญที่สุดคือ ท่านต้องการแบบไหน เพราะทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่านเป็นหลักเราเพียงเป็นคนทำให้ท่านสวยอย่างที่ท่านต้องการ โดยปกติจมูกคนเราจะแบ่งได้ออกมาเป็น 3 ส่วน ใน ส่วนแรกคือ ดั้ง ในส่วนของดั้งนั้นคนไทยส่วนมากไม่ค่อยมีดั้งจึงทำให้เกิดการเสริมดั้งมากกว่าตำแหน่งอื่นๆ ส่วนที่สอง คือบริเวณก่อนถึงปลายจมูก บางคนมีเนื้อตรงส่วนนั้นเยอะทำให้จมูกดูไม่เป็นมิติ ไม่สวยงามก็ต้องทำการตัดปีกจมูกออกแต่งให้เข้ารูปให้ดูเป็นมิติมากยิ่งขึ้นเพิ่มความสวยงามให้กับจมูก ส่วนที่สาม คือปลายจมูก ในส่วนนี้ก็ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน จะเห็นดารา นักแสดงต่างๆ นิยมไปแต่งปลายจมูกทรงหยดน้ำ เป็นทรงยอดฮิตที่ใครๆก็อยากจะทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูที่ความต้องการของท่านเป็นหลักว่าอยากจะทำส่วนไหนหรือต้องการเสริมจมูกปรับแต่งทั้งหมดก็ทำได้
จมูก เป็นสิ่งสำคัญบนใบหน้า จะทำให้เราดูเด่นสวยขึ้น ยิ่งจมูกเรารับเข้ากับใบหน้าเท่าไหร่ จะทำให้เห็นถึงบุคลิกที่ดีขึ้นความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น โดยส่วนมากในประเทศไทยนิยมเสริมจมูกในส่วนของดั้ง โดยวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกในปัจจุบันจะถูกแบ่งออกมาเป็น 3 ประเภทคือ กระดูกอ่อนและซิลิโคนและฟิลเล่อร์ โดยในส่วนของกระดูกอ่อนจะมาจากในร่างกายของท่านเองนำมาจาก 2 ส่วนคือ กระดูกอ่อนจากใบหูส่วนมากจะใช้เสริมบริเวณปลายจมูก และ กระดูกอ่อนจากซี่โครงส่วนมากจะใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเป็นมาตั้งแต่กำเนิดไม่นิยมนำมาใช้เพื่อความสวยงาม ประเภทที่ 2 ก็คือ แบบซิลิโคนจะมีทั้งแบบ ซิลิโคนสำเร็จรูป และ ซิลิโคนแบบเหลาเอง ซึ่งก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกันไปของทั้ง 2 แบบ โดยทางโรงพยาบาลเอเซียของเราจะนำซิลิโคนมาเหลาเองเพื่อให้เข้ากับโครงหน้าของท่านมากที่สุดเพื่อความสวยที่สุด โดยการผ่าตัดแบบซิลิโคนนั้นก็จะแบ่งประเภทออกมาเป็น 2 แบบ ประเภทแรกคือ ซ่อนแผลไว้ด้านใน ข้อดีก็คือ จะทำให้เรามองไม่เห็นแผล และอีกแบบคือการเสริมจมูกแบบเปิด ประเภทที่3 คือ แบบฉีดซึ่งเริ่มนิยมทำกันได้ไม่นานโดยการใช้สารที่เรียกว่า “ฟิลเลอร์” เป็นการปรับแต่งจมูกที่ไม่ได้สัดได้ส่วน ทำให้จมูกดูเป็นรูปทรงมากขึ้นโดยใช้เวลาไม่นานไม่ต้องพักรักษาตัวค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง
1. ทำความสะอาดบริเวณโพรงจมูก รอบจมูกๆและบริเวณที่จะทำการผ่าตัดให้เรียบร้อย
2. ฉีดยาชาบริเวณที่จะทำการเสริมจมูกหรือใช้ยานอนหลับที่ออกฤิทธิ์ในระยะสั้นเพื่อคลายความกังวล
3.ทำการแยกเนื้อเยื่อและส่วนต่างๆออกจากัน
4.หลังจากนี้จะเป็นเทคนิคของแพทย์แต่ล่ะท่านซึ่งแต่ละคนจะทำไม่เหมือนกันในการใส่ซิลิโคนเพื่อเสริมเข้าไป
5.ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงในการผ่าตัดเสริมจมูก
6.นอนพัก 1 ชั่วโมง พอให้ฤิทธิ์ยาคลายจึงกลับบ้านได้
7.การเสริมจมูกไม่ต้องตัดไหมเพราะใช้เป็นไหมละลาย
1.เวลานอนควรนอนให้ศรีษะสูงใน 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมของจมูก
2.ห้ามนอนตะแคงเป็นเวลา 1 อาทิตย์อาจทำให้จมูกผิดรูปได้
3.งดแอลกอฮอลล์ทุกชนิด
4.ลดอาหาร รสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด และของหมักดองห้ามเด็ดขาด
5.ล้างหน้าเบาๆอย่ารุนแรง ให้ใช้สบู่อ่อนล้างเบาๆ ในข่วงวันแรก
6.หลังผ่าตัดจะเกิดแผล ทำความสะอาดด้วยการนำคัตเติ้ลบัตจุ่มน้ำต้มสุกแล้วทำความสะอาด
7.ในการเสริมจมูกนั้นไม่ต้องตัดไหมเพราะในปัจจุบันได้ใช้ไหมละลายในกาารทำแต่ถ้าเป็นการตัดปีกจมูก แพทย์จะนัดมาตัดไหม
8.หลักจากการผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์แพทย์จะทำการนัดตรวจแผล
9.รับประทานยาทีได้มาให้ครบ
10.ไม่ควรใช้ยารักษาแผลเป็นที่แผล
11.หากรู้สึกว่าจมูกเกิดอาการบวมมากว่าปกติหรือมีเลือดออกมาอย่ารอช้าให้มาปรึกษาแพทย์ทันที
12.นำพลาสเตอร์ปิดแผลออกหลังจากวันที่ 3
1.จมูกเบี้ยว เคสนี้ส่วนมากจะพบได้บ่อยที่สุดโดยพบว่าซิลิโคนเบี้ยวออกไปทางใดทางนึงอาจจะเกิดจากร่างกายมีระบบป้องกันสิ่งแปลกปลอม
2.ซิลิโคนเคลื่อนขึ้นลง สามารถพบได้แม้จะทำมาหลายปี
3.กระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูกถูกดันออกมา เกิดจากการที่ ซิลิโคนที่วางไว้ดันกระดูกอ่อนออกมา
Q:เสริมจมูกไปได้ 1-2 อาทิตย์ดูแล้วจมูกเอียงต้องผ่าใหม่ไหม?
A:ไม่จำเป็นต้องผ่าใหม่หากตรวจพบแล้วรีบมาปรึกษาแพทย์สามารถดัดให้เข้ารูปโดยไม่ต้องผ่าได้
Q:ผ่าตัดเสริมจมูกไปมีโอกาสที่จะทำให้จมูกอักเสบไหม?
A:มีโอกาสหากเกิดการติดเชื้อที่แผลต้องรักษาความสะอาดแผลให้ดี หรือ อาจเกิดจากผิวหนังบริเวณใกล้เคียงเกิดการอักเสบเช่นการสิวขึ้นที่จมูก
Q:ซิลิโคนที่ทางคลินิกใช้เป็นชนิดไหนและแบบใด
A:ทางโรงพยาบาลเอเซียของเราใช้วัสดุเกรดเอนำเข้า เป็นซิลิโคนอ่อนอย่างดีไม่มีอันตราย สวยเป็นธรรมชาติแน่นอน
หลังจากไปทำศัลยกรรมความงาม เสริมจมูกกันมาแล้ว ระหว่างประคบประหงมจมูกของเรา ให้หายบวมด้วยน้ำแข็งแล้ว ยังต้องระวังการติดเชื้ออีกด้วย รวมทั้งต้องระวังเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี งดของแสลงทุกชนิด ประเภทของหมักดอง ส้มตำปลาร้าที่เคยโปรดปราน แม้แต่อาหารกระป๋อง หรืออาหารทะเลที่ไม่สด ก็รวมอยู่ในประเภทอาหารต้องห้ามเช่นกัน 7 วันอันตราย อาจจะเป็นช่วงที่อึดอัด แต่ก็เต็มไปด้วยความหวังว่า เมื่อแผลหาย ก็จะได้ใบหน้าที่มีจมูกเชิดๆ ส่งเสริมให้ใบหน้าดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน
แต่สิ่งผิดปกติก็อาจเกิดขึ้นได้ เนื่องจากวัสดุแปลกปลอมที่ใส่เข้าไป อาจไม่ตอบรับกับร่างกาย เป็นเหตุให้จมูกเกิดบิดเบี้ยว หรือซิลิโคนเลื่อนสูงขึ้น ต่ำลง แม้กระทั่งการอักเสบของผิวหนังบริเวณจมูกไม่ดีขึ้น อาการเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขจมูกโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นได้ คุณหมอเจ้าของไข้เองก็ได้แนะนำเรื่องเหล่านี้ให้เราได้รับรู้ก่อนตกลงใจทำการผ่าตัด แต่การแก้ไขจมูกนั้น ไม่สามารถทำได้ทันทีที่พบความผิดปกติ ยกเว้นการอักเสบของผิวหนังบริเวณจมูก ซึ่งต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน ด้วยการถอดจมูกออก พร้อมกับฉีดยาปฏิชีวนะ และรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ส่วนอาการซิลิโคนบิดเบี้ยว ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะทำการผ่าตัดแก้ไขจมูกได้ ทั้งนี้เพื่อรอให้เนื้อเยื่อสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ ให้สมบูรณ์ก่อน ดังนั้นผู้ที่ผ่านการผ่าตัดเสริมจมูกมาแล้ว ควรจะระมัด ระวังตนเองให้ดี พร้อมกับสังเกตุอาการเป็นระยะ เพื่อความปลอดภัย และความสวยงามตามที่ตั้งความหวังไว้